![macthai-5-trends-from-line-developer-day-2016]()
LINE ถือเป็นช่องทางการติดต่อที่สำคัญที่สุดสำหรับคนไทยในยุคนี้ไปแล้ว และจากงาน LINE Developer Day 2016 ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีการประกาศเปิดตัวระบบใหม่ๆ ของ LINE มากมายที่น่าสนใจ
ซึ่งทีมงาน MacThai ได้รับเชิญจากทาง LINE ให้เข้าไปร่วมงานและพูดคุยกับนักพัฒนาจากทั่วเอเชีย การเปิดตัวในครั้งนี้น่าจับตามองมาก และชี้ไปถึงเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นในปี 2017 ซึ่งใครไม่อยากตกเทรนด์ต้องอัพเดทกันให้ทันเลยทีเดียว
![macthai-5-trends-from-line-developer-day-2016-05-am]()
-
LINE ประกาศเปิดระบบแล้ว (Open Platform)
หลายคนมักมีภาพจำว่า LINE เป็น “ระบบปิด” มาโดยตลอด หลายแอพ หลายบริษัทจะไม่สามรถเข้ามาใช้บริการต่างๆ ใน LINE ได้เลย ต่างจาก Facebook และ Google ที่ได้เปิดระบบให้เข้ามาใช้ฟีเจอร์หลายๆ อย่างในระบบได้
แต่วันนี้ทาง LINE ประกาศ “เปิด” ระบบของตัวเองเต็มตัวแล้ว สไลด์ที่มีคำว่า “Open” พร้อมโชว์บริการต่างๆ ของ LINE ถือเป็นการประกาศเข้าสู่ยุคใหม่ของ LINE แบบจริงจังเลยทีเดียว
![macthai-5-trends-from-line-developer-day-2016]()
หลังจากนี้เราจะได้เห็นแอพ, เว็บ, เกม ต่างๆ ที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบของ LINE ได้อย่างเต็มที่ เช่นเล่นเกมกับเพื่อนอยู่ ก็สามารถแชท LINE บนหน้าจอในเกมได้เลย หรือ เชื่อมต่อแอพพยากรณ์อากาศกับ LINE เวลามีฝนตก พายุเข้า ก็ให้ส่ง LINE มาบอก เป็นต้น
![macthai-5-trends-from-line-developer-day-2016-57-am]()
2. ระบบแชท Group แบบใหม่ เรียก Group Plus มีสมาชิกได้เป็นหมื่นคน !!
แต่เดิมระบบ Group Chat ใน LINE ที่พวกเราใช้กันอยู่ จะคุยกันในกลุ่มไม่กี่คน และใครจะเข้าจะออกก็เชิญกันได้ง่ายตามสะดวก แต่ระบบใหม่นี้เรียกว่า Group Plus ซึ่งทำให้ระบบกลุ่มนี้มีสมาชิกได้หลักพันถึงหลักหมื่นคน !!
แต่ไม่ต้องห่วงว่าเข้ากลุ่มมาแล้วคงคุยกันมั่วไปหมด เพราะ Group Plus จะมีห้องคุยแยกย่อยออกไปข้างในได้เพิ่มอีก โดยมีระบบ Admin และ Moderator เพื่อคุมได้ว่าจะให้ใครเข้าออกกลุ่มได้บ้าง
![macthai-5-trends-from-line-developer-day-2016-30-am]()
เช่น เราสร้าง Group Plus ว่า “ซื้อขายรถมือสอง” จากนั้นก็มีกลุ่มย่อยเป็น “ซื้อขายรถ Toyota”, “ซื้อขายรถ Honda”, “ซื้อขาย Big Bike” เป็นต้น
LINE Group Plus น่าจับตาดูเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นแนวรบที่ย้ายคนจาก Facebook Group หรือแม้แต่กลุ่มกระทู้ใน Pantip ทำให้เป็นช่องทางใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ใครเปิดกลุ่มที่มีสมาชิกหลักหมื่นๆ ได้ จะมีอำนาจต่อรองที่น่าสนใจทีเดียว
![macthai-5-trends-from-line-developer-day-2016-24-am]()
3. LINE Login เทียบชั้น Facebook Login
แต่เดิมเมื่อเราเข้าไปตามเว็บต่างๆ ที่ต้องการสมัครสมาชิก ก็มักจะมีปุ่ม Login with Facebook, Twitter หรือ Google ให้เราเลือก ซึ่งระบบก็จะใช้ข้อมูลผู้ใช้จาก Social ของเราในการเข้าสู่ระบบ
ตอนนี้ LINE เปิดให้เว็บต่างๆ ทำปุ่ม Login with LINE ได้แล้ว ซึ่งมาตามมาตรฐาน oAuth 2.0 เช่นเดียวกับเว็บระดับโลกอื่นๆ ซึ่งมีความปลอดและน่าเชื่อถือที่ดี
![macthai-5-trends-from-line-developer-day-2016-17-am]()
สำหรับในไทยจำนวนผู้ใช้ LINE มากเท่าๆ กับจำนวน Facebook และมากกว่า Instagram, Twitter อยู่มากทีเดียว คนทำเว็บส่วนใหญ่ควรปรับมาใช้ด่วนๆ รวมถึง LINE ยังเปิดเผยว่ากำลังทำระบบ Profile+ คือเว็บที่ใช้ LINE Login จะสามารถดึง Profile ของผู้ใช้มาช่วยกรอกแบบฟอร์มต่างๆ ได้ง่าย
เช่น แม่ค้าผ่าน Instagram คุยกับลูกค้าบน LINE แล้วขอให้ลูกค้าช่วยกรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อจัดส่ง ก็อาจจะมีหน้าเว็บที่ให้ Login ด้วย LINE ID จากนั้นชื่อ ที่อยู่ จัดส่ง ก็กรอกให้ผู้ซื้อได้เองอัตโนมัติ
![macthai-5-trends-from-line-developer-day-2022]()
4. Messaging API เปิดระบบแล้ว สร้าง BOT คุยกับลูกค้าได้ไม่ยั้ง
แชทคือระบบหลักที่สำคัญที่สุดของ LINE ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้เริ่มมีเปิดระบบให้เขียนโปรแกรมเข้ามาคุยได้บ้างบางส่วนแต่มีเงื่อนไขในการใช้งานพอสมควร ล่าสุดตอนนี้ LINE ประกาศว่า Messaging API เปิดให้ทั้งบริษัทพาร์ทเนอร์ หรือแม้แต่นักพัฒนาโปรแกรมทั้งหมดใช้ได้แล้ว !!
โดยภาษาที่รองรับคือ PHP, Java, golang, Ruby, Perl5 ซึ่งครอบคลุมและใช้งานได้ไม่ยากเลย
แต่ส่วนนี่น่าสนใจกว่าการเปิดระบบ คือปกติแล้วการให้คนคุยกับ BOT มันก็ดูน่าเบื่อ มีแต่ Text ข้อความ ซึ่ง LINE ก็มองเห็นจุดอ่อนตรงนี้ดี เลยทำระบบการแสดงผลให้เป็นรูปภาพ หรือแม้แต่วิดีโอสวยงามก็ได้
![macthai-5-trends-from-line-developer-day-2018]()
![macthai-5-trends-from-line-developer-day-2019]()
เช่น ถ้าคุณเป็นร้านอาหาร แล้วมีคนส่งข้อความเข้ามาว่าเมนูสเต็กเนื้อราคาเท่าไหร่ ? เราอาจจะให้ BOT ตอบกลับด้วยรูปภาพสวยงามของเมนูสเต็กเนื้อมาให้ชม พร้อมระบุราคาลงในรูป ก็ทำได้
ใครสนใจตอนนี้มีการจัดประกวดเขียน BOT ชิงรางวัล 10 ล้านเยนกันเลยทีเดียวนะ
![macthai-5-trends-from-line-developer-day-2021]()
![macthai-5-trends-from-line-developer-day-2017]()
5. LINE เตรียมบุกโลก AR, AI และ IoT
สุดท้ายแล้ว เทรนด์ที่ประกาศออกมานั้นชัดเจนมากว่า LINE มองตัวเองเป็นบริษัทเทคโนโลยี ซึ่งไม่พลาดที่จะจับสิ่งใหม่ๆ ที่ถูกพูดกันเยอะมากในโลกทุกวันนี้
- Augmented Reality (AR) : มีการประกาศชัดเจนว่าจะโฟกัสในเรื่องนี้ แต่ไม่ระบุชัดเจนว่าจะทำอะไร
- AI & Machine Learning : โลกกำลังก้าวไปสู่การให้คอมพิวเตอร์คิดแทนมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ การมีระบบสื่อสารในมือถือว่าได้เปรียบมาก
![macthai-5-trends-from-line-developer-day-2020]()
- Internet of Things (IoT) : เปิดตัว LINE Beacon ถ้าเราไปใกล้จุดปล่อยสัญญาณ จะมีข้อความหรือหน้าต่างตอบรับโชว์ขึ้นมาใน LINE ได้เลย แถมแจกอุปกรณ์ให้นักพัฒนาไปลองเล่นกัน
![macthai-5-trends-from-line-developer-day-2024]()
โดยสรุปแล้วงาน LINE Developer Day 2016 ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญอย่างมากที่ LINE ประกาศ “เปิดระบบ” อย่างจริงจัง เมื่อมองภาพที่ว่าคนไทยเลือกใช้ LINE เป็นช่องทางสื่อสารหลัก นักการตลาด, แบรนด์ หรือ Agency ก็ควรเริ่มมองหา Solution สำหรับการใช้งานระบบที่เปิดเตรียมไว้ให้ในตอนนี้
สำหรับกลุ่ม Startup ก็น่าจะใช้โอกาสนี้ลองเข้ามาทดสอบระบบที่ LINE สร้างเอาไว้ให้ ไม่แน่ว่าอาจจะมีไอเดียทางธุรกิจที่เกิดขึ้นมาใหม่ก็เป็นได้
รายงานโดย
ทีมงาน MacThai